ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มาเขียนรีวิวงานแต่งของตัวเอง ฮ่าาา แต่พองานจบไปแล้วมานั่งดูภาพ มันสวยมากแกรรร แฮปปี้กับภาพที่ออกมามาก ก็เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่าน และชมภาพบรรยากาศกัน ใครที่กำลังหาไอเดียสำหรับ งานแต่งมินิมอล งานแต่งในสวน รับรองว่าจะได้ประโยชน์จากคอนเทนต์นี้อย่างแน่นอน
คอนเซ็ปต์งาน ชอบแบบไหนตามใจคนแต่ง
ต้องบอกก่อนว่าลักษณะการจัดงานแต่งงานของเราคือ จะไม่มีพิธีทางศาสนาใด ๆ โดยจะจัดงานในช่วงเย็น เน้นพูดคุย ทานข้าว ถ่ายรูป และมีเพียงแค่การสวมแหวนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในช่วงท้ายงานเท่านั้นค่ะ งานแต่งงานตามประเพณีไทยจะมีขั้นตอนและพิธีค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวคือไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบความพิธีรีตอง เพราะสำหรับเราแล้วการจัดงานแต่งงานคือการบอกกล่าวครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่องฝูง ให้รับทราบอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง ซึ่งโชคดีที่ทางบ้านเราเข้าใจ และให้จัดงานในแบบที่เราชอบ ส่วนแขกที่จะเชิญมาก็จะเป็นคนในครอบครัว ญาติ และแขกผู้ใหญ่ที่สนิทคุ้นเคยกัน มีเพื่อนบ้างมาแจมบ้างแต่ไม่เน้น


เวลาเตรียมงานน้อย ก็ออกมาปังได้
เราอาศัยอยู่ต่างประเทศ มีเวลากลับมาจัดงานที่ไทยแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น แล้วเราก็ใช้เวลาก่อนกลับไทยเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการเตรียมงาน ไม่ว่าจะเป็นหาร้าน ติดต่อร้าน จองพรีเวดดิ้ง คุยกับออแกไนเซอร์ ทุกอย่างผ่านออนไลน์หมดเลยเว้ยยย
สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยคือ เริ่มจากมีภาพในหัวก่อนว่าอยากได้บรรยากาศงานให้ออกมาเป็นประมาณไหน มินิมอลไม่จำเป็นต้องสีขาว มินิมอลคือความรียบง่าย ถ้าอยากได้สีโทนอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล แต่ส่วนตัวเราอยากได้โทนสีขาว น้ำตาล เขียว หรือถ้าใครมีกำลังจ่ายก็สามารถจ้างออแกไนเซอร์ให้ช่วยออกแบบงานได้ ส่วนเราคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่อยากสิ้นเปลืองเงินไปกับการจัดงานแต่งมากเกินความจำเป็น ก็เลยพยายามหา reference เอง ซึ่งมีเยอะแยะเลยใน pinterest
เนื่องจากเวลาน้อย เราใช้เวลาในช่วงเช้าของวันงานในการไปถ่ายพรีเวดดิ้ง แล้วพอถ่ายเสร็จก็เช่าชุดจากร้านแล้วไปงานต่อเลยจ้าาา ทำให้เสื้อผ้า หน้า ผม พร้อมในวันนั้นเลย ไม่ต้องเสียเงินและเสียเวลาซ้ำซ้อน ก็คือวันเดียวจบทุกอย่างทั้งพรีเว็ดดิ้งและจัดงานแต่งงานเลย



เลือกสถานที่ดี มินิมอลไปกว่าครึ่ง
การเลือกสถานที่เราก็ต้องรู้ก่อนว่าแขกที่เราจะเชิญมาร่วมนั้นมีประมาณกี่คน เราควรลิสท์รายชื่อและนับจำนวนให้เรียบร้อย และจะต้องเผื่อจำนวนบวกลบไว้ด้วย วันงานจริงอาจจะมีแขกที่ไม่สะดวกมา หรือแขกบางคนอาจจะมีผู้ติดตามที่เราไม่ได้ลงไว้ในลิสท์ก็เป็นไปได้เช่นกัน เมื่อทราบจำนวนแขกคร่าว ๆ แล้วก็หาสถานที่ที่เหมาะสมกับขนาดของงานเราได้เลยจ้าาา
ความโชคดีของเราคือได้สถานที่ที่ตรงคอนเซ็ปต์ เราเลือกร้านอาหารที่เป็น out door ข้อดีอย่างแรกคือได้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานข้าวในสวน แถมที่นี่ติดริมแม่น้ำไปอีก เลยได้บรรยากาศที่โคตรลงตัว ข้อดีอย่างที่สองคือ เราไม่ต้องไปหาเจ้าอื่นมาทำอาหารเพราะเค้าเป็นร้านอาหารอยู่แล้ว จึงจบในส่วนของสถานที่ อาหาร และเครื่องดื่มกับที่นี่เลย ตัวร้านเองมีความเป็นอิฐสีน้ำตาล รอบ ๆ มีหญ้าและต้นไม้สีเขียว สวยถูกใจมากแกร ทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่งสบาย ชิล ๆ ไม่อึดอัด
สถานที่จัดงาน: ร้านหลืบ ที่ตั้งร้านอยู่ริมแม่น้ำชี รอยต่อระหว่างจังหวัดยโสธร และจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าไปดูพิกัดร้านหรือสอบถามรายละเอียดได้จากเพจ หลืบ เจ้าของร้านชื่อคุณวุ้น ใจดี คุยง่าย น้อง ๆ ในร้านก็บริการดีมาก ๆ ใครอยู่จังหวัดใกล้เคียงอยากจัด งานแต่งมินิมอล งานแต่งในสวน เข้าไปสอบถามดูได้นะคะ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน



อาหารพร้อมบนโต๊ะ หรือจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ แบบไหนดีกว่า?
เราให้ทางร้านจัดเป็นโต๊ะทั้งหมด 3 แถวยาว แขกที่มาก็คือคุ้นเคยกันอยู่แล้ว อยากได้ฟีลแบบนั่งเม้ามอย พูดคุย เป็นกันเอง ส่วนอาหารจัดไว้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ความคิดเราก็คืออยากให้แขกได้เลือกตักอาหารแบบที่ชอบ เพราะที่เคยเห็นจากงานคนอื่นที่พอจัดเตรียมไว้บนโต๊ะก็จะมีอาหารบางอย่างเหลือ บางไม่พอ ก็เลยอยากตัดปัญหาโดยการจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ไปเลย แต่พอวันจริงปรากฏว่าแขกที่มาจะไม่ค่อยลุกเดินไปตักอาหาร กลายเป็นว่าต้องมีแขกบางส่วนเดินมาตักไปเสิร์ฟอีกที ซึ่งเราว่ามันแปลก ๆ ไปนิดนึง ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ บรรยากาศของการเป็นงานแต่งงานก็เสียไป ถ้าจะให้แนะนำก็คือ ถ้าในงานเน้นเชิญแขกผู้ใหญ่เยอะ ให้จัดอาหารลงโต๊ะไปเลย แต่ถ้าส่วนใหญ่เป็นเพื่อน ๆ หรือคนที่อายุยังน้อยอยู่สามารถจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ได้
เมนูอาหารก็เลือกตามที่ชอบได้เลย แต่ถ้าจัดบุฟเฟ่ต์เราจะต้องคุยกับทางร้านด้วยเพราะว่าบางเมนูถ้าจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาต่อหัวอาจะสูงขึ้น ก็ดูว่ายังอยู่ในงบของเราหรือเปล่า แนะนำให้ครบทุกประเภท ข้าว ผัด แกง ทอด กับแกล้ม ของหวานเราเลือกเป็นขนมไทย และก็มีผลไม้ เครื่องดื่มก็เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม แล้วแต่แขกจะเลือกได้เลยแต่ก็มีให้ครบไว้จะดีที่สุด



แบคดรอปถ่ายภาพแบบมินิมอล ออกแบบเอง?
อย่างที่ได้บอกไปว่าเราอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเวลามาจัดสถานที่เอง ก็เลยใช้ออแกไนเซอร์ในการจัดฉากถ่ายภาพ และป้ายต้อนรับหน้างาน เพื่อให้มินิมอลตรงใจเรามากที่สุด ก็เลยหาภาพ reference เองจาก pinterest แล้วส่งให้ออแกไซเซอร์จัดตามแบบไปเลยจ้าาา ซึ่งออกมาตรงกับแบบที่ส่งให้เป๊ะ ๆ งานดีถูกใจมากกก แนะนำว่าก่อนจะจ้างใครมาจัดงานให้เข้าไปดูผลงานเก่า ๆ ของคนจัดก่อน เพราะถึงแม้เราจะมีตัวอย่างให้แต่ถ้าคนจัดไม่ได้ถนัดแนวมินิมอล ก็อาจจะออกมาไม่ตรงตามที่เราต้องการได้ อย่างเช่นของเราตอนแรกอยากให้มีเป็นเหมือนผ้ามุ้งสีขาวอยู่ข้างบนตรงโต๊ะกินข้าว แต่พอพูดคุยแล้วน่าจะทำยาก คุณเค้าก็เลยแนะนำเป็นแบบแต่งโคมกลม ๆ สีขาวแทน เราก็เลยโอเคตามนั้น แต่จริง ๆ ก็ยังไม่เห็นภาพว่าจะออกมาในรูปแบบไหน พอเห็นวันจริงก็คือสวย มินิมอลตามคอนเซ็ปต์เลย ถึงแม้จะเป็นคนละแบบกับที่อยากได้ในตอนแรกก็ตาม เพราะฉะนั้นฝีมือและเทสคนจัดก็สำคัญ
ออแกไนเซอร์: อุ่นไอรัก ฟลาวเวอร์ ร้านดอกไม้ยโสธร เราติดต่อไปค่อนข้างด่วนแต่ทางครูอาร์มก็จัดออกมาได้ถูกใจและมีความเป็นมืออาชีพ งานเสร็จตามกำหนด ไม่เทไม่ทิ้งงาน จัดดอกไม้สวย แนะนำเลยค่ะ

ช่างภาพจำเป็นไหม?
ช่างภาพโคตรจำเป็น ฮ่าาา ห้ามคิดเด็ดขาดว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลือง เพราะไม่ว่าจะจัดงานออกมามินิมอลแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีช่างภาพก็จบ อีกหนึ่งความโชคดีคือเรามีเพื่อนเป็นช่างภาพฝีมือดี เราเอาตัวอย่างภาพ mood & tone ที่อยากได้ให้เพื่อนดู เพื่อนก็ถ่ายภาพออกมาได้ตรงใจเป็นที่สุด ข้อดีของการใช้ช่างภาพที่เรารู้จักคือเราจะไม่เขิลอาย ภาพที่ได้ก็จะออกมาเป็นธรรมชาติ
ช่างภาพ: Anuchit Saiyasit สามารถทักเฟสไปสอบถามรายละเอียดได้เลยค่าา รับรองได้รูปมินิมอลสมใจ ช่างภาพอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด แต่รับถ่ายภาพทั่วราชอาณาจักรไทย



แขกเริ่มทยอยมาตั้งแต่ 5 โมงเย็น มีการถ่ายภาพร่วมกัน นั่งดื่ม นั่งทานอาหาร พูดคุยกัน บรรยากาศแบบสบาย ๆ พอแขกมากันครบทุกคน เราก็มีช่วงของการสวมแหวนของบ่าวสาวบริเวณหน้าแบคดรอป ถ่ายรูปรวมกับแขกและญาติ ๆ จัดง่ายเกินไปมั๊ย ฮ่าาา ความดีงามคือที่ร้านมีคาราโอเกะให้ร้อง ญาติ ๆ ก็ร้องเพลงกันสนุกสนาน ประมาณ 3-4 ทุ่มก็เริ่มทยอยกลับกัน เป็นอันจบงานแต่งมินิมอลของเราค่ะ
ใครอยากทราบรายละเอียดอื่น ๆ สามารถทักมาพูดคุยกันได้ในเพจ Adizstyle
Leave a Reply